จากที่จอดรถเดินเท้าเข้ามาระยะทางประมาณสองร้อยเมตรจะถึงน้ำตกเก้าโจนชั้นอนุบาล ในชั้นนี้จะเป็นน้ำตกชั้นที่ไม่สูงนัก มักมีนักท่องเที่ยวปูเสื่อทานอาหาร รวมถึงเล่นน้ำตกกันที่ชั้นนี้ อาหารที่ซื้อมาตอนทางเข้าจะนำมาทานได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น เพราะหลังจากนี้จะมีป้ายห้ามนำอาหารเข้าไป จากชั้นอนุบาลจะเดินตามสายน้ำตกขึ้นไปมีทางไหลของน้ำเตี้ยๆ นักท่องเที่ยวที่ต้องการแค่พักผ่อนหย่อนใจสามารถสิ้นสุดการเดินที่ชั้นนี้ก็ได้

จากชั้นที่หนึ่งขึ้นมา ลักษณะทางเดินจะเป็นทางปูหินที่ทำเป็นทางไว้ เดินสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมน้ำตกในแต่ละชั้นได้ ซึ่งแต่ละชั้นของน้ำตกเก้าโจนมีความสวยแตกต่างกันไป บางครั้งป้ายบอกชั้นน้ำตกไม่ชัดเจน จึงอาจสับสนเรื่องชั้นน้ำตกได้ ในบางชั้นต้องออกนอกเส้นทางเพื่อลงไปชมน้ำตก เส้นทางช่วงนี้มีความชันบ้าง ในช่วงชั้นที่ 5-6 จะมีสะพานข้ามไปเป็นทางศึกษาธรรมชาติที่เชื่อมระหว่างโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา ไปจนถึงธารน้ำร้อนบ่อคลึง แบบเดียวกับที่พบเห็นตรงทางช่วงขึ้นน้ำตก ระยะทางจะค่อยๆลำบากขึ้นเรื่อยๆตามชั้นของน้ำตก

ระยะทางไปกลับระหว่างชั้นอนุบาลถึงชั้นหก ควรเผื่อเวลาเดินไปกลับราว สามชั่วโมง ไม่รวมระยะเวลาเล่นน้ำ เผื่อน้ำ ขนมไปทานระหว่างทางจะช่วยได้มาก

ตั้งแต่ชั้นที่ 6 ขึ้นไป เส้นทางจะเป็นทางขึ้นเขา ในบางช่วงต้องปีนป่ายก้อนหินขึ้นไปทางเดินเห็นได้ลำบากมากขึ้น ป้ายบอกทางไม่ชัดเจน จุดนี้จะเป็นจุดวัดใจนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนที่มาเป็นคู่ว่าจะสามารถดูแลกันไปให้ถึงชั้นที่ 9 หรือไม่ รวมถึงการเผื่อแรงไว้สำหรับขากลับด้วยกัน ในชั้นสุดท้ายจะเป็นชั้นที่ลำบากสุด ต้องข้ามเขา และการปีนไปหามุมสวยๆจะลื่นมาก อาจจะเหมาะกับการมาหลายๆคนเพื่อช่วยกัน

ระยะทางไปกลับระหว่างชั้นอนุบาลถึงชั้นเก้า ควรเผื่อเวลาเดินไปกลับราว 4-5 ชั่วโมง ไม่รวมระยะเวลาเล่นน้ำ แนะนำให้น้ำ ขนมไปทานระหว่างทาง

เป็นเส้นทางเดินของอุทยานธรรมชาติวิทยา ที่เชื่อมต่อกับ ธารน้ำร้อนบ่อคลึง และน้ำตกเก้าโจน โดยเส้นทางมีชื่อว่า  เส้นทางเดินศึกษาสภาพธรรมชาติ “ป่าแล้ง น้ำริน พุร้อน” จุดเริ่มต้นอยู่ที่ศาลาข้อมูลธรรมชาติวิทยา ของอุทยานธรรมชาติวิทยา จากนั้นข้ามลำธารบริเวณทางขึ้นน้ำตกเก้าโจน บริเวณที่พบสะพานไม้ตรงก่อนทางขึ้นนน้ำตก จากนั้นตามเส้นทางขึ้นน้ำตกไปจนถึงน้ำตกชั้นที่ 6 จะมีสะพานข้ามธารน้ำตกอีกครั้งเพื่อเดินต่อไปยังธารน้ำร้อนบ่อคลึง แล้ววกกลับมายังศาลาข้อมูลธรรมชาติวิทยา รวมระยะทางทั้งสิ้น 5.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชม. ครึ่ง ระหว่างทางจะเป็นป่าเบญจพรรณ สภาพธรณีน้ำพุร้อน  และเรื่องราวของเหมืองดีบุกซึ่งเลิกร้างไป ควรมาในช่วงเวลาที่ไม่ร้อนจัด