ป้อมพระจุล สมุทรปราการ

เผยแพร่เมื่อ August 28, 2024

แหล่งท่องเที่ยวสมุทรปราการ : ป้อมพระจุล

ป้อมพระจุลจอมเกล้าหรือที่เรียกกันสั้นๆว่า ป้อมพระจุล นั้น เดิมมีชื่อว่าป้อมแหลมฟ้าผ่า ตั้งอยู่ที่บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกองทัพเรือ ป้อมพระจุลเป็นสถานที่หนึ่งที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งอยู่ในช่วงล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสั่งการให้รีบสร้างป้อมพระจุลจอมเกล้า โดยติดตั้งปืนเสือหมอบไว้ 7 กระบอก โดยสร้างเสร็จในปี ร.ศ.112 หรือปี พ.ศ. 2436 พระองค์ทรงมีราชหัถเลขาถึงเสนาบดีมีความตอนหนึ่งว่า

“ฉันรู้ตัวชัดอยู่ว่า ว่าความเปนเอกราชของกรุงสยาม ได้สิ่นสุดไปเมื่อใด ชีวิตฉันคงสิ้นสุดไปเมื่อนั้น มิได้อยู่ปกครองทรัพย์สมบัตินี้เล ซึ่งจะทนอยุ่อย่างที่ขอไม่ได้เลยเปนอันขาด”

ในปีเดียวกันนั้นป้อมพระจุลจอมเกล้าได้มีโอกาสรับใช้ชาติอย่างสมเกียรติ เรือรบฝรั่งเศษ 2 ลำ พร้อมด้วยเรือนำร่องอีก 1 ลำ ได้แล่นล่วงเข้ามาในน่านน้ำทะเลไทย จึงเกิดการต่อสู้ระหว่างฝ่ายไทยกับฝรั่งเศษ ปืนใหญ่เสือหมอบได้ทำหน้าที่ยิงถล่มจนเรือนำร่องจมไป 1 ลำ มีการสูญเสียกันทั้งสองฝ่าย แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ทำให้เกิดผลหลายประการ โดยเป็นเหตุให้ฝรั่งเศษ ยุติการสู้รบ ขู่เข็ญในกรณีพิพาทเรื่องเขตแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ซึ่งได้โต้เถียงกันเป็นเวลากว่า 10 ปี อีกทั้งเป็นเหตุให้ไทยต้องเสียดินแดน 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดให้กับฝรั่งเศษ เพื่อรักษาแผ่นดินส่วนใหญ่และเอกราชไว้

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาไทย

ป้อมพระจุล

ชื่อภาษาอังกฤษ :

Pom Phrachun

เวลาเปิด - ปิด :

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น.

ที่อยู่ :

ต. แหลมฟ้าผ่า

ข้อมูลอ้างอิง :

เว็บไซต์ป้อมพระจุล , ป้ายภายในสถานที่ป้อมพระจุล

สถานะ :

ไม่มีข้อมูล

การเดินทาง

การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว :

จากอำเภอพระประแดงเข้าทางหลวงสาย 303 (ถนนสุขสวัสดิ์) เจอสามแยกซ้ายตรงไปจะเป็นพระสมุทรเจดีย์ ขวาไปทางป้อมพระจุล วิ่งตรงไปประมาณ 6 กิโล จะเจอป้อมทหารรักษาการณ์บริเวณทางเข้า ตรงเข้ามาตามป้ายสักระยะก็ถึงป้อมพระจุล

กิจกรรมแนะนำ

1

ยลเรือรบอย่างใกล้ชิดที่เรือหลวงแม่กลอง เรือรบที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของโลก

เรือหลวงแม่กลองขึ้นระวางประจำการเมื่อปีพ.ศ. 2480 ได้เคยปฏิบัติภารกิจที่สำคัญต่างๆ เช่น เคยเป็นเรือพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เคยร่วมปฏิบัติการในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา จนถือได้ว่าเป็น “เรือครู” ของทหารเรือ เรือหลวงแม่กลองเป็นเรือรบที่ปฏิบัติราชการยาวนานที่สุดในกองทัพเรือ รวมระยะเวลาปฏิบัติราชการ 59 ปี เรือหลวงแม่กลองเป็นเรือรบที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากเรือ Gun Ship ชื่อ Guanajuato ของประเทศเม็กซิโก

ปัจจุบันเรือหลวงแม่กลอง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ร.ล. แม่กลอง ตั้งเทียบบนพื้นคอนกรีตตายตัวอยู่ที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า สามารถขึ้นไปชมปืนใหญ่ ปืนกล และอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่บนเรือรบ

2

พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5

พระบรมราชานุสาวรีย์ สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงการสู้รบและการป้องกันบ้านเมืองในเหตุการณ์ ร.ศ. 112 พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศจอมพลเรือ สวมพระมาลามีขนาดสูง 4.20 เมตร หรือ 2 เท่าครึ่งของพระองค์จริง ออกแบบโดยอาจารย์เสวต เทศน์ธรรม ที่ใต้ฐานของพระบรมรูปได้จัดเป็นพิพิธภัณ์แสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของป้อมพระจุลจอมเกล้า

3

เดินมุดป้อมชมปืนเสือหมอบ ปืนใหญ่ต่อสู้ขาศึก ภายในป้อมพระจุลจอมเกล้า

ที่บริเวณด้านหลังของพระบรมราชานุสาวรีย์ของป้อมพระจุลจอมเกล้าคือป้อมปืนของแท้ที่ยังคงดูแลรักษามาให้คนรุ่นหลังดูจนถึงปัจจุบัน ภายในป้อมปืนเป็นทางเดินเล็กๆที่เชื่อมต่อเข้าหากันได้ แต่ละจุดจะมีจุดวางปืนหลุม หรือที่เรียกว่าปืนเสือหมอบ จำนวน 7 กระบอก เพื่อไว้ต่อสู้ขาศึก ซึ่งปืนทั้ง 7 กระบอกนี้ถือเป็นปืนใหญ่บรรจุท้ายรุ่นแรกที่มีใช้ในกองทัพเรือ

ปืนเสือหมอบนี้เป็นปืนที่สร้างโดยประเทศอังกฤษ โดยบริษัท เซอร์ ดับบลิว จี อาร์มสตรอง อันที่จริงการจัดซื้อมาจำนวน 10 กระบอก แต่อีก 3 กระบอกติดตั้งไว้ที่ป้อมผีเสื้อสมุทร ปืนเสือหมอบเป็นปืนที่ต้องใช้กำลังพลประจำปืนถึง 10 นาย ต่อกระบอก เมื่อยิงปืนเสือหมอบ แรงดันของดินขับที่จุดตัวภายในลำกล้องจะทำให้ปืนถอยกลับลงมาในหลุม

4

ดูเรือบรรทุกสินค้าเข้าออกปากอ่าวแม่น้ำที่สะพานชมภูมิประเทศ

สะพานชมภูมิประเทศเฉลิมพระเกียรติ เป็น 1 ใน 9 โครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของกองทัพเรือ ตั้งอยู่ริมร้านอาหาร เป็นสพานคอนกรีตเสริมเหล้กยาว 110 เมตร ที่ปลายสะพานที่ยื่นออกไปเป็นศาลา เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ตก หรือเพลิดเพลินไปกับเรือบรรทุกสินค้าเข้าออกแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเรือจะต้องผ่านที่ศาลานี้ทำให้เห็นเรือผ่านอยู่ตลอดเวลา

5

เดินสะพานไม้ ชมโรงเรียนศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน

โรงเรียนศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนแห่งนี้อยู่ด้านหลังของร้านอาหาร สนับสนุนโดยกองทัพเรือและการไฟฟ้านครหลวง ลักษณะเป็นสะพานไม้ระยะสั้นๆเพื่อเดินชมป่าชายเลนที่อยู่ในป้อมพระจุลจอมเกล้า แม้จะไม่ค่อยมีสัตว์ชายเลนให้ชมมากนัก แต่ก็ถือเป็นการเดินผ่อนคลายเห็นวิวปากแม่น้ำเจ้าพระยาสู่ทะเลอ่าวไทย

6

ชมเสาโทรเลขสายแรก กรุงเทพฯ – ปากน้ำ (สมุทรปราการ)

โทรเลขสายแรกได้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐบาลไทยได้มอบหมายให้กรมกลาโหมสร้างสายโทรเลขสายแรกขึ้น จากกรุงเทพฯ ไปปากน้ำ และวางเคเบิลโทรเลขใต้น้ำ ต่อออกไปถึงกระโจมไฟนอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา รวมระยะทางทั้งสิ้น 45 กิโลเมตร เพื่อให้ทางราชการใช้ส่งข่าว เกี่ยวกับการเข้าออกของเรือกลไฟ

รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย