วัดช่องลม สมุทรสาคร
เผยแพร่เมื่อ August 29, 2024
วัดช่องลมตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวสมุทรสาคร มีลมทะเลตลอดทั้งวัน วัดช่องลมนับเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสาคร มีอายุยาวนานเกือบ 200 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ยกวัดช่องลมเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2508 เนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่ปากอ่าว จึงมีผู้นิยมมาลอยอังคารกันมาก
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย
วัดช่องลม
ชื่อภาษาอังกฤษ :
Wat Sutthi Wata Wararam
ที่อยู่ :
ตำบลท่าฉลอม
ข้อมูลอ้างอิง :
เว็บไซต์วัดช่องลม , เว็บไซต์จังหวัดสมุทรสาคร
สถานะ :
ไม่มีข้อมูล
การเดินทาง
เดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว :
ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) จากตัวเมืองมหาชัยไปทางสมุทรสาคร เลยสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนไป ประมาณ 200 เมตร สังเกตซ้ายมือมีปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซึ่งเป็นปั๊มขนาดใหญ่ เลี้ยวซ้ายผ่านปั๊มน้ำมันเข้าไปยังสุขาภิบาลท่าฉลอม ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดช่องลม
เดินทางโดยทางเรือ :
ใช้เรือข้ามฟากจากฝั่งมหาชัยข้ามมาฝั่งท่าฉลอม จากนั้นต้องต่อรถตรงเข้ามาอีกระยะจะเห็นวัดช่องลมอยู่ทางซ้ายมือ
กิจกรรมแนะนำ
1
ดูรักนกและนกนางแอ่นนับหมื่นในวิหาร
ภายในวิหารพระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว) ของวัดช่องลม มีนกแอ่นกินรัง (Edible-nest-Swiftlet) มาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากนับหมื่นตัว เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจเพราะโดยปกตินกนางแอ่นจะทำรังตามผนังถ้ำหินปูนบนเกาะกลางทะเลในที่สูงห่างไกล หรืออยู่ตามคอนโดนกจำลอง แต่ที่นี่มาอาศัยอยู่กันตามธรรมชาติ นอกจากจะได้เห็นรังนกจำนวนมากภายในวิหารรอบๆอย่างละลานตาแล้ว เรายังได้เห็นศิลปะฝาผนังซึ่งเกิดจากที่นกทิ้งมูลไว้เป็นริ้วๆ ส่วนด้านหลังยังมีรูเหนือฝ้าเพดานขนาดหนึ่งตารางเมตร ให้นกอาศัยอยู่อีกจำนวนมาก หากต้องการดูช่วงเวลาที่นกนางแอ่นเข้าออกจากรังเป็นสาย สามารถมาตอนช่วงเช้าที่นกออกจากรังคือราวหกโมงครึ่ง และช่วงที่นกกลับรังคือราวหนึ่งทุ่มจนถึงทุ่มครึ่ง ถึงกระนั้นก็ยังมาเยี่ยมชมตอนกลางวันก็ได้ เราจะเห็นนกที่กำลังหัดบินจำนวนมากเกาะอยู่รอบๆ รวมถึงนกตัวน้อย ที่พลัดหลงกับพ่อแม่ตกลงมาซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลวิหารคอยเก็บมาเลี้ยงจนกว่าจะบินได้ เดิมนกเหล่านี้อาศัยอยู่ที่อุโบสถ หลวงปู่แก้วให้อาศัยอยู่ด้วยความเมตตา จากที่เคยมีจำนวนน้อยๆ แต่ด้วยความเมตตาปราณีที่มีอยู่ในจิตใจของคนที่อยู่ในบริเวณนั้น จึงเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังทางวัดวางอุบายให้ย้ายนกเหล่านี้มาอาศัยอยู่ที่วิหารที่ประดิษฐานสังขารหลวงปู่แก้ว มีความเชื่อว่าวันที่นกเข้ามาอาศัยอยู่ในพระอุโบสถครั้งแรก ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่พอดี ปัจจุบันทางวัดจะเก็บรังนกนี้ต่อเมื่อไม่มีนกอาศัยอยู่ในรังแล้วเท่านั้น เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือสังคมและมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ยากจน นอกจากนี้ยังกลายเป็นโมเดลก่อให้เกิดธุรกิจคอนโดนกนางแอ่นเพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่ชาวชุมชนและแวกวัดช่องลมแถวๆนี้
2
กราบสังขารหลวงปู่แก้วที่วิหารพระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว)
อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทธิวาตวราราม รูปที่ 8 ในสมัยท่านเป็นเจ้าอาวาสนั้นได้พัฒนาวัดช่องลม ตลอดจนเสนาสนะอย่างต่อเนื่อง จนมีเจ้าอาวาสวัดต่างๆ เดินทางมาดูตัวอย่างการก่อสร้างที่วัดอยู่เสมอ ๆ สมด้วยนามเดิมของท่านว่า “แก้ว” คือแก้วอันประเสริฐ พระเทพสาครมุนี (หลวงปู่แก้ว) ท่านได้อุทิศชีวิตและร่างกายให้กับพระศาสนา และสังคมอย่างไม่หยุดยั้ง ตลอดชีวิตของท่านตั้งแต่บวชจนถึงมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2526 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ มาเป็นประธานในพิธีเปิดพระวิหาร และประกอบพิธีอัญเชิญศพ พระเทพสาครมุนี มาประดิษฐาน ณ วิหารพระเทพสาครมุนี ในวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ ผู้ศรัทธาสามารถเข้ากราบนมัสการและระลึกถึงคุณความดีที่ท่านทำไว้ ซึ่งสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงทองอย่างสวยงาม พร้อมทั้งหล่อรูปเหมือนของท่านในท่านั่งสมาธิ ประดิษฐานไว้ภายในวิหารของวัดช่องลม
3
กราบหลวงพ่อหินแดง 11 นิ้ว
พระอุโบสถหลังแรกของวัดช่องลม สร้างเมื่อ พ.ศ. 2350 ส่วนอุโบสถหลังปัจจุบันนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระมหากรุณาธิคุณเสด็จมาทรงยกช่อฟ้าพระอุโบสถหลังใหม่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ พระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. มีมหามงกุฏประดิษฐานไว้หน้าจั่วพระอุโบสถ มีพระประธานหน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ 6 นิ้ว ปางมารวิชัย อาราธนามาเป็นพระประธานจากวัดช่องสะเดา ผ่านการเสี่ยงสัจจาธิษฐานต่อหน้าหลวงพ่อปู่ (หินแดง) ว่ากันว่ามีลักษณะพิเศษคือพระหัตถ์ข้างซ้ายมี 6 นิ้วจึงเรียกว่า พระ 11 นิ้ว
4
อุทยานสมเด็จพระปิยะมหาราช รัชกาลที่ 5 (King Chulalongkorn Rama V Park)
ประกอบพิธีเปิดในปี พ.ศ. 2519 ภายในมีพระราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อยู่ติดวัดด้านหน้า สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินท่าฉลอม และทรงตั้งเป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย ทรงชุดฉลองพระองค์สวมเสื้อราชปะแตน นุ่งผ้าม่วง สวมพระมาลา เหมือนเมื่อครั้งเสด็จประพาสมาที่ท่าฉลอม
5
ชมวิวทิวทัศน์หน้าวัดช่องลม
อยู่ใกล้กับที่จอดรถ ด้านหน้าของวัดช่องลมหันสู่ทิศใต้ตรงกับปากน้ำท่าจีนพอดี สามารถมองเห็นทัศนียภาพปากอ่าวที่งดงาม
หมวดหมู่
รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย