วัดพุทธเอ้น แม่แจ่ม เชียงใหม่
เผยแพร่เมื่อ September 3, 2024
“วัดพุทธเอ้น” หรือ “วัดพุทธเอิ้น” เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากของอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ วัดพุทธเอ้นเดิมมีชื่อว่า “วัดศรีสุทธาวาสเอิ้นมงกุฎ” ก่อสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว ในสมัยก่อนพระสงฆ์ในแม่แจ่มจะใช้วัดพุทธเอ้นเป็นวัดที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา ก่อนที่กรมศิลปากรขึ้นทะเบียน “โบสถ์น้ำ” ซึ่งเป็นอุโบสถกลางน้ำที่หลงเหลือเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ภายในวัดพุทธเอ้นยังมีวิหารไม้สักเก่าแก่ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแต่ได้เลือนลางไปมากแล้ว ด้านหลังวิหารก็เป็นที่ประดิษฐานเจดีย์องค์ใหญ่ ส่วนด้านนอกมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของชาวแม่แจ่ม
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย
วัดพุทธเอ้น
ชื่อภาษาอังกฤษ :
Wat Phutha Oen (Phutha Oen Temple)
เวลาเปิด - ปิด :
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
ที่อยู่ :
4 หมู่ที่ 15 ต.ช่างเคิ่ง
ข้อมูลอ้างอิง :
ป้ายข้อมูลภายในสถานที่ , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สถานะ :
ไม่มีข้อมูล
การเดินทาง
การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว :
การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ :
(ข้อมูลอัเปเดตเมื่อปี 2014)
กิจกรรมแนะนำ
1
อุโบสถกลางน้ำ หลงเหลือเพีนงแห่งเดียวในไทย
อุโบสถกลางน้ำหรือ “โบสถ์น้ำ” ที่วัดพุทธเอ้นนี้เป็นอุโบสถกลางน้ำที่เหลืออยู่แห่งเดียวในไทย ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร มีลักษณะคือสร้างในสระสี่เหลี่ยมโดยปักเสาลงในน้ำล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง บริเวณรอบโบสถ์จนถึงกำแพง เรียกว่า “อุทกสีมา” มีความหมายเหมือนกับ “ขันทสีมา” หน้าบันแกะสลักไม้เป็นลายพรรณพฤกษา เชิงชายเป็นรูปมกรคายนาคทั้งสี่ด้าน ในอดีตมีคติการบวชในโบสถ์กลางน้ำนั้นถือว่าเป็นการบวชพระภิกษุสงฆ์ที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุด ซึ่งเป็นความเชื่อแบบลัทธิลังกาวงศ์ ปัจจุบันการบวชกลางน้ำนี้ได้ยกเลิกไปหมดแล้ว
2
บ่อน้ำศักดิ์สิทธ์
ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าวัดพุทธเอ้น มีลักษณะเป็นบ่อน้ำมีน้ำไสใหลเย็นออกมาจากพื้นดิน ชาวแม่แจ่มถือกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มักนิยมมารองน้ำดื่มเพื่อไปดื่มกินที่บ้าน น้ำจากบ่อน้ำนี้เองก็ได้ไหลลงสู่สระน้ำของอุโบสถ ทำให้มีน้ำตลอดปี
มีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับบ่อน้ำพุทธเอ้นนี้ว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดเวเนยสัตว์ผ่านมาและได้หยุดพักผ่อนที่ดอนสกานต์ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดพุทธเอ้นในปัจจุบัน ได้ทรงตรัสเรียกหาพระอานนท์ พระพุทธอุปัฏฐากให้หาน้ำมาเสวย เสร็จแล้วทรงบ้วนพระโอษฐ์ลง ณ บริเวณที่เป็นบ่อน้ำในปัจจุบัน ซึ่งบ่อน้ำนี้มีลักษณะเป็นน้ำผุดออกจากใต้พื้นดิน และไหลออกมาไม่ขาดสายไม่ว่าบ้านเมืองจะแล้งเพียงใดก็ตาม ต่อมาได้มีภิกษุสองรูปคือพระติวิทวังโส และพระชมภูวิทโยได้ธุดงค์ผ่านมาจึงได้ร่วมมือกับชาวบ้านละแวกนั้นสร้างวัดขึ้นตรงบริเวณที่น้ำน้ำพุ่งออก
หมวดหมู่
รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย