วัดพุทไธศวรรย์ อยุธยา
เผยแพร่เมื่อ September 2, 2024
เดิมวัดพุทไธศวรรย์คือที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชั่วคราวของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ในคราวที่อพยพผู้คนหนีโรคห่าลงมา ในช่วงระหว่างนั้นทรงได้ให้ช้างพระที่นั่งสำรวจพื้นที่บริวเณนี้แล้วอธิษฐานว่าถ้าช้างหยุด ณ ที่ใด ก็จะสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ นั่นก็คือกรุงศรีอยุธยา และได้สถาปนาเป็นราชธานี หลังจากนั้นสามปี พระองค์ได้ถวายพระตำหนักเวียงเหล็กนี้ให้เป็นวัดที่ชื่อว่า “วัดพุทไธศวรรย์”
วัดพุทไธศวรรย์เป็นดินแดนอันมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับด้านอยู่ยงคงกระพันจนเป็นที่ลือเลื่องจนถึงในปัจจุบัน กล่าวคือ วัดพุทไธศวรรย์เป็นสถานที่ฝึกอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหาร ก่อนออกศึกสงคราม โดยเฉพาะเมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ได้ทำพิธีอาบน้ำว่านให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก่อนทำสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา เมืองหงสาวดี
ในช่วงเสียกรุง วัดพุทไธศวรรย์เป็นเพียงวัดเดียวในบริเวณเกาะเมืองที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดหลังจากที่พม่าได้ยกทัพมาตีและได้เผาทำลายวัดแทบทุกวัด
จากตำนานเล่าขานในอดีตจะเห็นได้ว่าวัดพุทไธศวรรย์ คือวัดที่อยู่คู่ราชธานีกรุงศรีอยูธยาตั้งแต่ต้นจนจบได้อย่างแท้จริง วัดพุทไธศวรรย์นี้ ได้รับพระราชอุปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์หลายพระองค์จนถึงปัจจุบัน
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย
วัดพุทไธศวรรย์
ชื่อภาษาอังกฤษ :
Wat Phutthaisawan
เวลาเปิด - ปิด :
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.30 น.
ที่อยู่ :
ตำบลสำเภาล่ม
ข้อมูลอ้างอิง :
ป้ายข้อมูลภายในสถานที่ , เวบไซท์วัดพุทไธศวรรย์ , Wikipedia , คมชัดลึก
สถานะ :
ไม่มีข้อมูล
การเดินทาง
การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว :
จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านโรงพยาบาลราชธานี,ผ่านเจดีย์กลางเกาะ ข้ามสะพานปรีดีฯ เข้าสู่เกาะเมืองอยุธยา ลงสะพานขับตรงมา ผ่านจวนผู้ว่า,โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย,สถาบันราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ถึงสามแยกศาลากลางเก่า ให้เลี้ยวซ้ายขับไปประมาณ500เมตร ถึงสามแยกโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ให้เลี้ยวขวา เข้าถนนรอบเกาะขับผ่านตำหนักสิริญาลัย อีกประมาณ 1.8 กิโลมตร เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานวัดกษัตริย์ตรา ให้ชิดซ้ายไว้ เมื่อลงสะพานให้เลี้ยวซ้ายไปทางวัดไชยวัฒนาราม ขับไปจนถึงสี่แยกห่างจากวัดไชยวัฒนารามประมาณ 2 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายผ่านมัสยิด,โบสถโยเซฟ อีกไม่เกิน 700 เมตร ก็จะเห็นป้ายหน้าวัด
การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ :
หากเดินทางโดยรถไฟ เมื่อถึงสถานีอยุธยาให้ใช้บริการรถรอบเมือง ค่าโดยสารคนละ 7 บาท ดูป้ายที่เขียนว่า “ป้อมเพขร โรงพยาบาล” ไปลงที่ 7-11 หน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แล้วลงเรือข้ามฟาก ค่าโดยสาร 3 บาท จากนั้นก็เดินผ่านโรงเรียนวัดพุทไธศวรรย์ ก็จะถึงอาณาเขตวัด หรือ ลงเรือข้ามฝากจากฝั่งสถานีเพื่อข้ามมายังตัวเกาะเมือง แล้วเดินเท้าหรือใช้บริการรถมอไซด์รับจ้าง จากในตัวตลาดเจ้าพรหม สำหรับจุดจอดรถประจำทางจะอยู่บริเวณถนนข้างตลาดเจ้าพรหม จุดสังเกตคือจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเทศบาลและธกส.ให้ท่านขึ้นรถสองแถววัดไก่เตี้ย สามารถลงรถที่หน้าวัดพุทไธศวรรย์ สำหรับรถสองแถววัดไก่เตี้ยจะมีบริการเวลา 5.00-18.30 นาฬิกา ในขากลับก็สามารถใช้เส้นทางเดิมโดยข้ามไปฝั่งตรงข้ามถนนแล้วนั่งรถวัดไก่เตี้ยกลับเข้าเมือง รถสองแถววัดไก่เตี้ยจะออกทุก30นาที และขับผ่านหน้าวัดต้องไปโบกรถเองถึงจะจอดหากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง รถโดยสารจะมีเวลาออกจากหมอชิต 2 ส่วนรถตู้โดยสารประจำทาง ขึ้นจากอนุเสาวรีย์ชัย ตั้งแต่เวลา 05:30- 18:30 น. มีทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ หน้าภัตตาคารพงษ์หลี หน้าห้างแฟชั่นมอล์ ท่ารถ บ.ฝั่งแฟชั่นมอล์เช่นกัน / รถตู้ประจำทางขึ้นจากท่ารถรังสิต(ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต) ตั้งแต่เวลา 05:30- 18:30 น. สวนหย่อมหลังสถานีรถ บขส.รังสิต ฝั่งตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ครังสิต / รถตู้ประจำทาง ขนส่งสายใต้ใหม่ ตั้งแต่เวลา 06:00- 18:00 น. ท่ารถอยู่แถวโรบินสันเก่าจุดจอดที่อยุธยาจะอยู่บนถนนเส้นเดียวกันคือบริเวณที่จอดรถ บขส. แต่รถตู้ขาเข้าจะวนไปส่งที่ตลาดเจ้าพรหม บริเวณ ธกส. เดินข้ามถนนมาบริเวณที่จอดรถสองแถว ให้ขึ้นรถสองแถววัดไก่เตี้ย สามารถลงรถที่หน้าวัดพุทไธศวรรย์
(ข้อมูลอัปเดตเมื่อปี 2014 )
กิจกรรมแนะนำ
1
พระพุทธไสยาสน์ท่ามกลางซากปรักพักพังโบราณสถาน
ซากโบราณสถานในวัดพุทไธศวรรย์จะอยู่ด้านหลังวัดหลังพระปรางค์อีกที เมื่อเดินเข้ามาจะพบซากปรักที่ยังคงเห็นหลงเหลืออยู่ อาทิ พระอุโบสถ วิหารพระสี่ทิศ และวิหารพระนอน นอกจากนั้นยังมีตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ พระอาจารย์ที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงเคารพนับถืออย่างมาก ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยายังปรากฏให้เห็นอยู่ แต่เป็นที่นาเสียดายที่ภาพเขียนเรื่องทศชาติชาดกกับเรื่องสมเด็จจพระพุทธโฆษาจารย์ไปนมัสการพระพุทธรูปที่ลังกาทวีปได้เลือนหายไปหมดแล้ว
เวลาที่ดีที่สุดในการมาถ่ายภาพคือช่วงบ่าย
2
พระปรางค์ประธาน วัดพุทไธศวรรย์
เป็นพระปรางค์องค์ใหญ่ศิลปะแบบขอม ตั้งอยู่กึ่งกลางอาณาเขตพุทธาวาสบนฐานไพที ซึ่งมีลักษณะย่อเหลี่ยมมีบันไดขึ้น 2 ทาง คือ ทางทิศตะวันออก และทางทิศตะวันตก ส่วนทิศเหนือทิศใต้มีมณฑปสองหลังภายในพระมณฑปมีพระประธาน
พระปรางค์เปิดให้เยี่ยมชมเวลา 08:00 – 17:00
3
สักการะ “หลวงพ่อดำ” สามพระพุทธรูปอยุธยาตอนต้น
ตั้งออยู่ในพระอุโบสถ ฐานพระอุโบสถเป็นฐานตรงไม่แอ่นเป็นท้องสำเภาเช่นเดียวกับลักษณะในสมัยอยุธยาตอนปลาย ภายในมีพระพุทธรูปสามองค์ขนาดใหญ่ที่บนฐานชุกชี เป็นศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น แต่ละองค์มีพระพักตร์ที่มีลักษณะต่างกัน องค์พระประธานคือ หลวงพ่อดำ เดิมเป็นปูนปั้นลงลักษณ์สีดำ แต่ชาวบ้านยังคงเรียกหลวงพ่อดำ ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องใครเจ็บป่วยไข้หากได้สักกะระจะหายเป็นปลิดทิ้ง ชาวบ้านนิยมสักการะด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม
พระอุโบสถเปิดให้เยี่ยมชมเวลา 08:00 – 17:00
4
วิหารจตุคามรามเทพในภาคกลาง
องค์จตุคามรามเทพ เชื่อกันว่าเป็นเทพผู้คุ้มครองปกปักรักษาเมืองศรีวิชัยหรือเมืองสิบสองนักษัตรหรือนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน ทางวัดพุทไธศวรรย์ ได้มีการจัดสร้างองค์ท่านพ่อจตุคามรามเทพองค์ใหญ่ประดิษฐานให้ศิษยานุศิษย์และสาธุชนในภาคกลางได้สักการะกราบไหว้บูชา ด้วยเหตุปัจจัยหลายประการ รวมถึงระยะทางในการเดินทางไปยังนครศรีธรรมราชนั้นอยู่ห่างใกล
วิหารจุตคามฯ (อ.อติโชติ) เปิดระหว่าง 10:00 – 17:30
หมวดหมู่
รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย