วัดสี่ร้อย อ่างทอง
เผยแพร่เมื่อ September 2, 2024
วัดสี่ร้อยเป็นวัดเล็กๆที่ตั้งอยู่ที่อำเภอวิเศษชัยชาญ ริมฝั่งแม่น้ำน้อย จังหวัดอ่างทอง วัดสี่ร้อยเริ่มเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนทั่วไปหลังจากภาพยนตร์ “ขุนรองปลัดชู วีรชนคนถูกลืม” ได้ออกฉายในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นเรื่องราวของ “ขุนรองปลัดชู” ผู้สร้างวีรกรรมนำพลพรรคเพียงสี่ร้อยคนเข้าสกัดทัพพม่าที่อ่าวหว้าขาวในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบัน พ.ศ. 2313 โดยในพงศาวดารต่างๆกล่าวถึงขุนรองปลัดชูแต่เพียงเล็กน้อยไม่กี่บรรทัดเท่านั้น แต่ด้วยวีรกรรมหาญกล้าของท่านเป็นแรงบันดาลใจให้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเรื่องราวของชาวสปาตัน 300 คนที่สู้เพื่อปกป้องบ้านเมืองในภาพยนตร์เรื่อง “300″ แต่ในเรื่องขุนรองปลัดชูนี้มีจำนวนผู้หาญกล้าทั้งสิ้น 400 ท่าน กลายเป็นที่มาชื่อของวัดสี่ร้อยในที่สุด
วัดสี่ร้อยแห่งนี้ชาวเมืองวิเศษไชยชาญตั้งขึ้นตอนสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลและเป็นอนุสรณ์แก่ขุนรองปลัดชูและผู้เสียชีวิตทั้งหมด 400 นาย ภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว 11 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 จึงได้มีการจัดสร้างอนุสาวรีย์ขุนรองปลัดชูขึ้นภายในบริเวณวัดสี่ร้อย นอกจากนั้นภายในวัดสี่ร้อยยังสามารถพบเห็นเจดีย์ที่เป็นอนุสรณ์สถานผู้เสียสละ และภายในพระอุโบสถเคยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างอยุธยาที่มีความงดงามมาก แต่ปัจจุบันภาพลบเลือนไปหมดแล้ว
ภายในวัดสี่ร้อยยังมีพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ สูง 21 เมตร หน้าตักกว้าง 6 เมตรเศษ นามว่า หลวงพ่อโต สร้างในสมัยที่หลวงพ่อบุญเป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อปั้นมาจากบางบาล จึงชวนหลวงพ่อบุญสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ โดยจำลองมาจากวัดป่าเลไลยก์ที่สุพรรณบุรี ก่อสร้างอยู่ 16 ปี ในปี พ.ศ. 2430 มีข่าวใหญ่ว่าหลวงพ่อวัดสี่ร้อยมีโลหิตไหลออกมาจากพระนาสิก(จมูก) ข่าวนี้ได้รับความสนใจจากคนทั่วไปทั้งชาวอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง ต่างหาโอกาสมาสักการะ “หลวงพ่อร้องไห้” ให้ได้
เรื่องราวของขุนรองปลัดชู
ก่อนจะเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองประมาณแปดปี พระเจ้าอลองพญาของพม่าได้ยกทัพมาตีเมืองตะนาวศรี พระเจ้าอยู่หัวเอกทัศแห่งอยุธยาก็ได้ทรงจัดเกณฑ์กองทัพไปรบ ในการนี้ ขุนรองปลัดชู ข้าราชการหัวเมืองวิเศษชัยชาญ ได้รวบรวมพรรคพวกจำนวนสี่ร้อยคนเข้ามาอาสาเป็นกองอาทมาตร่วมรบในครั้งนี้ด้วย แต่เมืองตะนาวศรีแตกก่อนที่ทัพจากอยุธยาจะไปถึง ทัพพม่าได้ยกเลยเข้ามาในเขตไทยทางด่านสิงขรและตีทัพหน้าของไทย ขุนรองปลัดชูกับพรรคพวกพยายามสกัดทัพพม่าที่อ่าวหว้าขาวเขตเมืองกุยบุรี ในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่แล้วก็ต้องพลีชีพกันทั้งหมดเนื่องจากทัพหนุนไม่ได้ช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ตามข้อมูลในท้องถิ่นอำเภอวิเศษชัยชาญกล่าวว่า ขุนรองปลัดชูมีชื่อตัวว่า “ชู” เป็นครูดาบอาทมาตผู้มีฝีมือในเขตเมืองวิเศษไชยชาญ มีลูกศิษย์จำนวนมากและเป็นที่เคารพนับถือโดยทั่วไปในแถบนั้น นายชูได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรมการเมืองวิเศษไชยชาญตำแหน่ง “ปลัดเมือง” ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อคนผู้นี้โดยทั่วไปว่า “ขุนรองปลัดชู”
เรื่องราวของ “ขุนรองปลัดชู” ถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังเช่นในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ที่เขียนไว้เพียงว่า “… พะม่ายกขึ้นมาตีทัพพระยายมราชณแกงตุมแตก พระยาธารมาจึงเกณฑ์ไพร่ ๕๐๐ เข้าบรรจบกองปลัดชู แล้วให้ยกไปตั้งตำบลอ่าวขาวริมทะเล ฝ่ายทัพหน้าพะม่ายกขึ้นมาตี กองปลัดชูก็แตกพ่าย…” หรือในพระราชพงศาวดารกรุงสยาม ฉบับบริติชมิวเซียมดังนี้ว่า “… พม่ายกขึ้นมาตีทัพพระยายมราช ณ แก่งตุ่มแตก แล้วยกแยกไปตีกองปลัดชู ซึ่งตั้งอยู่ตำบลอ่าวขาวริมทะเล จึ่งแบ่งไพร่ ๕๐๐ ไปช่วยกองปลัดชู รบกันอยู่ประมาณกึ่งวัน กองปลัดชูก็แตกพ่ายมา …”
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย
วัดสี่ร้อย
ชื่อภาษาอังกฤษ :
Wat See Roy (See Roy Temple) , Wat 400
ที่อยู่ :
หมู่ 4 ต.สี่ร้อย
ข้อมูลอ้างอิง :
ป้ายข้อมูลภายในสถานที่ , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , เว็บไซต์ iseehistory , Wikipedia
สถานะ :
ไม่มีข้อมูล
การเดินทาง
การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว :
จากตัวเมืองอ่างทอง แยกเรือนจำวิ่งมาตามถนนสาย 3064 ไปทางอำเภอวิเศษชัยชาญ เมื่อถึงสามแยกป่างิ้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 3195 วิ่งตรงมาผ่านวัดม่วง และตลาดศาลเจ้าโรงทอง เมื่อถึงแยกวิเศษชัยชาญ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 3454 วิ่งมาราว 6 กิโลเมตร วัดสี่ร้อยจะอยู่ทางซ้ายมือ
รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย