ศาลเจ้านาจา (ศาลเจ้านาจาซาไท้จื้อ) ชลบุรี
เผยแพร่เมื่อ August 15, 2024
ศาลเจ้านาจา หรือ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ซึ่งประทานนามโดยสมเด็จพระสังฆราชอันมีความหมายว่า เป็นที่สถิตของเทพเจ้าทั้งหลาย มีความงดงามในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบจีน บริเวณศาลยังมีสระบัว อาคารปฏิบัติธรรม และเสาฟ้าดิน มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้บูชาอยู่เนืองแน่นทุกวัน เนื่องจากศาลนาจาอยู่ใกล้กับบางแสนและอ่างศิลา เดิมศาลนาจาแห่งนี้เป็นเพียงศาลเจ้าเล็กๆ กราบบูชาเทพเจ้านาจา หนึ่งในเทพเจ้าของจีนที่ชาวจีนรวมทั้งชาวไทยเชื้อสายจีนให้การเคารพนับถือ ต่อมามูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ได้สร้างขึ้นใหม่เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา
ภายในอาคารหลักของศาลนาจาแบ่งออกเป็น 4 ชั้น ได้แก่
วิหารชั้น 1
เป็นที่ประดิษฐานของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ซึ่งทรงปณิธานคล้ายคลึงกับพระแม่ กวนอิมแต่ผิดไปจากพระแม่กวนอิม คือ พระองค์จะต้องโปรดเวยไนยสัตว์ที่อยู่ในนรกให้หมดฉะนั้นในงานศพจึงบูชาท่านก็เลยการเป็นพิธีไปส่วนพิธีมงคลนิยมบูชาพระแม่กวนอิม กระทั่งเกิดคำว่า “ตี๋จั๋งโปรดคนตาย พระแม่กวนอิมโปรดคนเป็น”
วิหารชั้น 2
เป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ปางที่จำลองมาจากมณฑลเสฉวนจากประเทศจีน เป็นศาลเจ้าแรกขององค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ซึ่งท่านแม่ขององค์เทพเจ้าหน่าจาเป็นผู้สร้างให้ นอกจากนั้นยังมีรูปเหมือนองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อปางประสูติปางปราบมารนั่งบัลลัง รูปแกะสลักมหาโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาวหรือ(พระอวโลกิเตศวร ) จากประเทศพม่า องค์เต๋าเล่าหง่วงกุง( พระมารดาแห่งดวงดาว ) องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วองค์หนึ่งออเนี่ยเนี้ยองค์เทียงโหงวเซี้ยบ้อ องค์อุ่ยท้อผ่อสัก และ องค์เทพเจ้ากวนอู ประดิษฐานอยู่
วิหารชั้น 3
เป็นที่ประดิษฐานขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ พระแม่ธรณีองค์ฮั่วท้อเซียนซือองค์ไท้อิกกิวโค่วกิ่วหลั่งเทียงจุง องค์ไท้เสียงเหล่ากุง องค์ไท้แป๊ะกิมแซ พระอวโลกิเตศวร
วิหารชั้น 4
เป็นชั้นที่สูงสุดเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นองค์ประธานหรือองค์พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้า องค์พุทธเจ้าอีก 5 พระองค์ องค์สมเด็จพระอนุตรธรรมมารดาองค์ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดแก่จักรวาลทั้งปวง เป็นผู้ให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้า พระสมันตภัทรโพธิสัตว์พ ระมันชุศรีโพธิสัตว์ สมเด็จพุทธมารดาแดนสระทิพย์ และองค์กวงกึงเล่าโจ้ สมเด็จพระพุทธมารดาแห่งดวงดาว รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานซำป้อ หรือซาเสี่ยฮุก (องค์พระอมิตาพระพุทธเจ้า องค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม และพระสถาปราบโพธิสัตว์) ซึ่งเป็นองค์เทพเจ้าที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือกันเป็นจำนวนมาก
ประวัติศาลเจ้านาจา
ศาลเจ้านาจาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อราวเดือนมีนาคม พ.ศ. 2534 บนเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา โดยท่านอาจารย์สมชาย พุทธนพเป็นผู้ริเริ่มสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ เดิมทีเป็นเพียงแค่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ไม่ใหญ่โตมาก บรรดาลูกศิษย์และผู้ที่ให้ความเคารพนับถือมาสักการบูชาเป็นจำนวนมาก ด้วยบารมีแห่งองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อทำให้ผู้ที่มากราบไหว้ มีความร่มเย็นเป็นสุข มีชีวิตที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในธุรกิจการค้ามากมาย
จนมาเมื่อปี พ.ศ. 2539 ท่านอาจารย์สมชาย พุทธนพ ท่านได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ โดยจะสร้างศาลเจ้าหลังใหญ่ขึ้นเพื่อ “ เฉลิมพระเกียรติครบรอบ 72 พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” ในการเริ่มก่อสร้างศาลนั้นเริ่มสร้างในปีพ.ศ. 2538 แต่เริ่มต้นมีเงินทุนในการสร้างศาลเจ้านาจาอยู่เพียง 3 ล้านกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งก็ได้ลูกศิษย์พ่อค้าประชาชนที่ให้ความเคารพได้ร่วมบริจาคเงินสร้างศาลเจ้ามา ในที่สุดศาลเจ้านาจาก็แล้วเสร็จ ใช้ระยะเวลารวมการก่อสร้างกว่า 4 ปี และใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2541 สมเด็จพระสังฆราช ฯ ได้เสด็จมาเป็นประธานพิธีเททองหล่อพระพุทธ 7 พระองค์ และทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 9 พระองค์ ให้แก่อาจารย์สมชาย พุทธนพ เพื่อทำพิธีบรรจุ และได้รับเกียรติจาก ฯ พณ ฯ ท่าน ม.ร.ว. อดุลกิติ์ กิติยากร เป็นประธานในพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระสังฆราช ฯ ได้พระราชทานนามวิหารแห่งนี้ว่า “ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม” ซึ่งมีนัยความหมายว่าเป็นที่สถิตของทวยเทพเจ้าทั้งหลาย
ประวัติศาลเจ้านาจา
องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ เป็นตำนานที่เล่าขานกันมาแต่ครั้งบุราณกาล สมัยปลายราชวงศ์เซียงต้นราชวงศ์จิว หน่าจาซาไท้จื้อ เป็นบุตรคนที่ 3 ของแม่ทัพหลี่เจ๋ง กล่าวกันว่ามารดาตั้งครรภ์หน่าจาเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน จึงคลอด หลังจากท้องแล้ว หน่าจาแทนที่จะเป็นเด็กทารกดั่งเช่นเด็กทั่วไป กลับเป็นก้อนเนื้อทรงกลม ๆ ที่ห่อหุ้มไว้ด้วยเนื้อเยื่อและรกพันเต็มไปหมด ยังความตกใจและประหลาดใจแก่แม่ทัพหลีเจ๋งและนางฮิง ผู้เป็นบิดามารดา ด้วยความประหลาดดังกล่าว หลี่เจ๋งซึ่งเป็นบิดาจึงใช้กระบี่ฟันก้อนเนื้อ ปรากฎว่าภายในก้อนเนื้อนั้น เป็นเด็กทารกเพศชาย ซึ่งในมือขวาถือห่วงทองคำและรอบตัวพันด้วยผ้าแพรสีแดง ในขณะนั้นมีนักพรตท่านหนึ่งมีนามว่า ไท้อิกจิงยิ้ง ซึ่งบำเพ็ญศีลภาวนาอยู่ ณ ยอดเขาเคี่ยงง่วนซัว กิมกวงตัง มาร่วมแสดงความยินดีด้วย และเมื่อได้เห็นบุคลิกลักษณะของเด็กน้อย เกิดความชื่นชมในความเฉลียวฉลาด พร้อมกับได้ชี้แจงให้แม่ทัพหลี่เจ๋งและนางฮิงทราบว่า ห่วงทองและผ้าแดงที่ติดตัวมานั้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้มีบุญญาบารมีสูงอีกทั้งได้รับตัวเด็กน้อยไว้เป็นศิษย์และตั้งชื่อให้ว่า “หน่าจา” เพื่อถ่ายทอดวิชา
รูปลักษณ์ขององค์เทพนาจา จะปรากฏให้ห็นเป็นรูปของเด็กผู้ชายเหยียบวงล้อไฟ มือถือหอกและห่วงเป็นอาวุธ มีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ปราบมารปีศาจได้ ต่อมาภายหลังเง็กเซียนฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งให้เป็น “จงตั๋นหง่วนโส่ย” หรือ “จงตั๋นเหยียนฟู่” (中壇元帥) แม่ทัพแห่งสวรรค์ ทำหน้าที่ปกป้องประตูสวรรค์ เช่นเดียวกับ เอ้อหลางเสิน หรือ เทพสามตา
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย
ศาลเจ้านาจา (ศาลเจ้านาจาซาไท้จื้อ)
ชื่อภาษาอังกฤษ :
Wihan Thep Sathit Phra Kitti Chaloem , Nacha Sa Thai Chue Shrine
เวลาเปิด - ปิด :
เปิดให้บริการวันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น.
ที่อยู่ :
วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ) 1/13 หมู่ 5 ตำบลอางศิลา
ข้อมูลอ้างอิง :
ป้ายข้อมูลภายในสถานที่ , www.saensukcity.com , มูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ , wikipedia
สถานะ :
ไม่มีข้อมูล
การเดินทาง
การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว :
จากถนนสุขุมวิท ก่อนถึงทางเข้าบางแสน จะมีแยกไปตำบลเสม็ดเส้น 3134 วิ่งตรงมาจนสุดหัวโค้งจะถูกบังคับให้เลี้ยวซ้าย เมื่อเลี้ยวซ้ายตรงมาสักพักศาลเจ้านาจาจะอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถอยู่ข้างศาล
รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย