ตัวชายหาดมะนาวเลาะเลียบถนนไปราว 4 กิโลเมตร แต่จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเล่นน้ำ เดินเล่นชายหาดอยู่แถวบริเวณร้านค้าและสโมสร เนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวก มีที่อาบน้ำ ร้านอาหารและที่จอดรถ มีทหารคอยดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว  ส่วนที่พักภายในกอง บก 5 มีบริการบ้านพักภายในอ่าวมะนาวคือ อาคารที่พักสวัสดิการ ทอ.อ่าวมะนาว “ฟ้าชมคลื่น” นอกนั้นจะอยู่ภายนอกเขตกองบิน 5 เป็นที่พักของเอกชน

ภายในกองบิน 5  มีจุดชมวิวเขาล้อมหมวก ซึ่งเป็นจุดชมวิวเมืองสามอ่าวที่มีความสวยงามมากอีกจุดหนึ่ง จุดชมวิวเขาล้อมหมวกมีความสูงประมาณ 300 เมตร แต่การขึ้นไปถึงนั้นมีความลำบากค่อนข้างมากสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป  การเดินขึ้นไปจะต้องมีสุขภาพที่พร้อม ใจต้องถึง และสวมใส่รองเท้าผ้าใบ กางเกงที่เหมาะสม ช่วงแรกของการขึ้นไปชมจุดชมวิวเขาล้อมหมวกจะเป็นบันได จากนั้นจะต้องปีนป่ายซึ่งมีความชันและอันตราย โดยมีเชือกให้เกาะ บางช่วงชันเกือบเก้าสิบองศา เมื่อถึงยอดจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่แปลกตา เมื่อมองย้อนกลับไปที่ชายหาด จะเห็นอ่าวประจวบอยู่ทางขวามือฯ และอ่าวมะนาวอยู่ทางซ้ายมือ มองเห็นเขาตาม่องลาย และเกาะเล็กเกาะน้อยของประจวบฯ ระหว่างทางนักท่องเที่ยวยังมีโอกาสเห็นค่างแว่นถิ่นใต้ สัตว์ท้องถิ่นที่น่ารักอีกด้วย

ด้านบนของจุดชมวิวเขาล้อมหมวก สามารถกราบไหว้รอยพระพุทธบาท” จำลองประดิษฐานในมณฑป รอยพระพุทธบาทนี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อปี 2532 ในช่วงอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานบนยอดเขา  จากการตรวจสอบของกรมศิลปากรพบว่ารอยพระพุทธบาทนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4

บริเวณทางขึ้นชมวิวเขาล้อมหวกมี “ศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก” ให้กราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล เจ้าพ่อเขาล้อมหมวกเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ สถิต ณ ภูเขาล้อมหมวก รักษาคุ้มครอง ประทานพร เป็นที่เคารพนับถือของ ชาวกองทัพอากาศและชาวเมืองประจวบคีรีขันธ์มาแต่บรรพกาล  เจ้าพ่อเขาล้อมหมวกนี้มีรูปนิมิตปรากฏเป็นชาวจีนอาวุโส ร่างบาง ผิวพรรณค่อนข้างขาว  เคราขาวโพลน ใบหน้าอิ่มเอิบ เปี่ยมรัศมีแห่งความเมตตา กรุณาและบารมีธรรมบางนิมิตปรากฏ สวมหมวกทรงจีน (กุยเล้ย) ชาวกองทัพอากาศและชาวเมืองประจวบคีรีขันธ์เชื่อว่าเจ้าพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์ มีอภินิหาร ได้เมตตาปกป้องคุ้มครองชาวกองทัพอากาศและชาวเมืองประจวบ ฯ  ให้แคล้วคลาดปราศจากภัยพิบัติและวิกฤตการณ์เลวร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ภัยจากสงครามจากการบุกของกองทัพญี่ปุ่นครั้งสงครามมหาเอเชีย และภัยธรรมชาติ

ในอดีตพื้นที่กองบิน 53 หรือชื่อในอดีตคือกองบินน้อยที่ 5 เป็นสมุรภูมิรบระหว่างที่ญี่ปุ่นยกพลขึ้นทางภาคใต้โดยมีการปะทะกันอย่างรุนแรงก่อนที่จะมีการเจรจาให้ญี่ปุ่นเดินผ่านต่อไปพม่าได้ ปัจจุบันจึงจัดอาคารพิพิธภัณฑ์เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของกองบินน้อยที่ 5 นี้

พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5 แบ่งเป็นอาคาร 3 หลัง ได้แก่

• อาคารพิพิธนิทัศน์ แสดงอากาศยานต่าง ๆ และวิวัฒนาการของกองบิน 5 จำลองพื้นที่อาณาเขต
• อาคารประวัติสงคราม ในอดีต เคยเป็นบ้านพักของนายทหารชั้นสัญญาบัตร ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 10 ห้อง ปัจจุบันปรับปรุงเหลือเพียง 5 ห้องเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย ห้องอุบัติการณ์แห่งสงคราม ห้องชีวิตทหารไทยในไฟสงคราม ห้องเจรจาขอผ่านแดน ห้องเกียรติภูมิผู้กล้า ห้องบรรจุรายนามผู้เสียชีวิตของวีรชน และยุวชน
• อาคารพิพิธภัณฑ์หลังที่ 3 เดิมเคยเป็นบ้านพักของ น.ต.ประวาท ชุมสาย ผู้บังคับการกองบินน้อยที่ 5 จัดแสดงประวัติการก่อตั้ง เครื่องประจำการ และอาณาเขตพื้นที่กองบิน 5 นิทรรศการแสดงถึงความกล้าหาญของนักรบแห่งกองบิน 5 และแหล่งท่องเที่ยวโดยรอบ

นอกจานั้นภายในกองบินสามารถเห็น อนุสาวรีย์วีรชน ทหารอากาศในชุดนักบินยืนอยู่บนใบพัดเครื่องบินถือธงหันหน้าออกทะเล นอกจากนั้นยังมี อุทยานประวัติศาสตร์กองบิน 5 มีแท่งหินขนาดใหญ่แกะสลักจำลองฉากการต่อสู้ระหว่างกองทัพไทยกับญี่ปุ่น ทุกๆปี ที่อ่าวมะนาว มีการจัดงานวันรำลึกวีรกรรม 8 ธันวาคม 2484