เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล พิษณุโลก

เผยแพร่เมื่อ October 7, 2024

แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดพิษณุโลก : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล พิษณุโลก

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 มีเนื้อที่ 1,775 ไร่ จากการศึกษาและจำแนกซากดึกดำบรรพ์ จึงทำให้ทราบว่าเมื่อยุคคาร์บอนีฟอรัส (Carboniferus) ซึ่งมีอายุราว 360 – 286 ล้านปีแล้ว บริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน เพราะว่าหินปูนบริเวณนี้ส่วนมากเกิดจากการทับถมของเปลือกหอย พลับพลึงทะเล หรือปะการัง และบริเวณหน้าผาของถ้ำผาท่าพลนั้นมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันและเว้าแหว่ง ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำฝนมาเป็นล้านๆปี และทำให้เกิดเป็นถ้ำต่างๆ เช่น ถ้ำนเรศวร ถ้ำเรือ ถ้ำผาแดง ถ้ำลอด ถ้ำเต่า และหน้าผาฝ่ามือแดง หากใครต้องการมาเที่ยวที่ถ้ำผาท่าพลแห่งสามารถมาติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานฯได้เลย แต่ในช่วงฤดูฝนจะไม่สามารถเข้าชมถ้ำได้เนื่องจากน้ำจะท่วมพื้นที่ถ้ำทั้งหมด

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาไทย

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล

ชื่อภาษาอังกฤษ :

Tham Pha Tha Phon Non-Hunting Area

เวลาเปิด - ปิด :

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30 น.

ที่อยู่ :

หมู่ 6 บ้านหัวเขา ตำบลบ้านมุง

ข้อมูลอ้างอิง :

เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย , ป้ายข้อมูลในสถานที่ , เว็บไซต์เทศบาลบ้านมุง

หมายเหตุ :

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ราคา 20 บาท , เด็ก ราคา 10 บาท / ยานพาหนะ : รถยนต์ ราคา 30 บาท , รถจักรยานยนต์ ราคา 20 บาท

สถานะ :

ไม่มีข้อมูล

กิจกรรมแนะนำ

1

ถ้ำนเรศวร

ถ้ำนเรศวร  สมัยก่อนเรียกว่า “ถ้ำโอ่ง” เพราะว่าค้นพบเครื่องปั้นดินเผา และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “ถ้ำนเรศวร” เมื่อ พ.ศ.2532 เพราะมีหินที่มีลักษณะคล้ายกับพระมาลาเบี่ยงของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยภายในถ้ำนั้นจะมีหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างแปลกตา และมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายกับแรด บริเวณทางเข้าค่อนข้างลำบาก จะต้องคลานเข้าไป

2

ถ้ำเรือ

ถ้ำเรือ เป็นถ้ำที่ถูกพบฟอสซิลหอย ปลิงทะเล สาหร่ายทะเลมากกว่าถ้ำอื่นๆ โดยฟอสซิลพวกนี้จะอยู่ตามผนังถ้ำ เป็นถ้ำที่สวยที่สุดในบริเวณนั้น

3

ถ้ำผาแดง

ถ้ำผาแดง ในอดีตถ้ำนี้เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ จากการสำรวจนั้นพบเศษภาชนะดินเผาจะตกแต่งด้วยลาดเชือกทาบและสะเก็ตหินกองปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาว 2 ชนิด คือ ค้างคาวปากย่นและค้างคาวปีกถุงเคราดำ เป็นค้างคาวที่กินแมลง ช่วยกำจัดศัตรูพืชให้แก่เกษตรกร และที่ชื่อว่า “ถ้ำผาแดง” นั้นเป็นเพราะบนหน้าผาบริเวณเหนือปากถ้ำ มีสีแดงเคลือบอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำ

4

ถ้ำลอด

ถ้ำลอด เป็นถ้ำที่เกิดจากการละลายของหินปูน มีความยาว 227 เมตร และสูง 80 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยถ้ำนี้จะมีลำน้ำทะลุภูเขาทำให้มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ช่วงฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำมากและไหลแรง ซึ่งน้ำเหล่านี้จะช่วยในการละลายหินปูนในโถงถ้ำให้มีความกว้างมากขึ้น การเที่ยวที่ถ้ำลอดแห่งนี้สามารถเดินข้ามไปยังอีกฝั่งได้ ในช่วงหน้าแล้งจะเดินสบาย แต่ค่อนข้างลำบากในช่วงหน้าฝน ซึ่งอีกด้านหนึ่งของถ้ำจะเป็นที่ตั้งของวัดและสำนักสงฆ์ และยังเป็นที่อยู่ของลิงวอกจำนวนมากอีกด้วย

5

ถ้ำเต่า

ถ้ำเต่า เป็นถ้ำขนาดเล็ก จะมีลักษณะเหมือนห้องโถงใหญ่หนึ่งห้อง โดยที่ชื่อว่า “ถ้ำเต่า” มาจากในสมัยก่อนนั้นมีเต่าเข้ามาอาศัยเป็นจำนวนมาก และบริเวณหน้าปากถ้ำนั้นยังมีหินย้อยย้อนแสงเพราะมีสิ่งมีชีวิตพวกสาหร่ายและแบคทีเรียต่างๆ ที่เกาะอยู่ตามหินย้อย และบริเวณผนังถ้ำบางส่วนจะถูกเคลือบด้วยแร่แมงกานีส จึงทำให้เกิดเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ สีดำเคลือบอยู่บนผนังถ้ำ ส่วนบริเวณเพดานของถ้ำจะพบเป็นริ้วรอยน้ำไหล (Scallop) จะคล้ายๆ รอยริ้วคลื่น (Ripple mark) ซึ่งสิ่งนี้สามารถบอกถึงความเร็วของน้ำและทิศทางการไหลของน้ำได้ว่าไหลมาจากทิศไหนไปทิศไหน นอกจากถ้ำแล้วยังมีอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น ซากดึกดำบรรพ์ อย่างเช่น ปะการัง หอยสองฝาไม่เท่ากัน พลับพลึงทะเลสาหร่ายทะเล โดยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เมื่อตายไปแล้วนั้นบางส่วนจะถูกเก็บรักษาไว้ในชั้นหินปรากฎให้เห็นถึงปัจจุบัน และมีอักษรญี่ปุ่น ที่เป็นอักษรปริศนาโดยสลักไว้บนก้อนหินซึ่งบางตัวมีความหมายว่า ‘ถูกต้อง’ เชื่อว่าบริเวณนี้เมื่อก่อนเคยเป็นทางเดินทัพของทหารญี่ปุ่น ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และหน้าผาฝ่ามือแดง บริเวณผนังดินปรากฎภาพเขียนสีเป็นรูปมือคน มีหลายขนาดจึงเชื่อว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมา

 

รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย