ในช่วงยามเช้าเป็นช่วงเวลาที่ทิวทัศน์คลองปากประมีความงดงามมาก นักท่องเที่ยวสามารถชมและถ่ายภาพได้จากฝั่งบริเวณสะพานข้ามคลองหรือจากรีสอร์ทที่อยู่่ติดกับคลองปากประ โดยในยามเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ส่วนในฤดูน้ำปลาจะว่ายเข้ามาในแม่น้ำจำนวนมาก จะได้เห็นชาวบ้านยกยอขนาดยักษ์ซึ่งเป็นภูมิปัญญาเครื่องมือหาปลาของชาวบ้าน ซึ่งจะต้องปีนขึ้นไปบนโครงสร้างที่ทำด้วยไม้ไผ่ มีไม้คานยกยึดติดอยู่กับแขนยอ โดยยอมีรูปร่างเป็นแหสี่เหลี่ยม สามารถยกขึ้นและลงในน้ำเพื่อจับปลาได้ ยอที่บริเวณคลองปากประแห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ส่วนช่วงฤดูร้อนจึงไม่ค่อยได้เห็นชาวบ้านยกยอเท่าไหร่นัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปบริเวณปากคลองได้ เช่นที่หน้ารีสอร์ท Wetlandcamp หรือจะเช่าเรือเพื่อชมทัศนียภาพบริเวณรอบๆได้ ถ้าโชคดีจะได้เห็นพระอาทิตย์โผล่พ้นน้ำกับทิวทัศน์ยอยักษ์ มีความงดงามแปลกตาเป็นอย่างมาก

ที่บริเวณริมคลองปากประมีรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการนอนพักผ่อน บรรยากาศดี ได้แก่  Wetlandcamp (www.wetlandcamp.com) และ ศรีปากประรีสอร์ท (www.facebook.com/Sripakpra)  ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน ทั้งสองรีสอร์ทมีจำนวนห้องไม่มากนัก แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ตกแต่งสวยงาม มีร้านอาหารให้บริการ โดย Wetlandcamp เป็นผู้บุกเบิกการพื้นที่บริเวณนี้ ให้ความรู้การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงลุยน้ำเพื่อไปสัมผัสยอได้อย่างใกล้ชิด ขณะที่ศรีปากประมีบ้านสองชั้นมุมสูงให้ชมวิวได้สวยงามโดยเฉพาะยามเย็น

สิ่งที่ควรเตรียมตัวไปก่อนคือบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำจะมียุงค่อนข้างชุกชุม นอกจากนั้นแล้วที่รีสอร์ทยังมีบริการเรือเพื่อไปดูดอกบัวและควายน้ำที่ทะลน้อยได้เช่นกัน

สวนพฤกษศาสตร์พัทลุงตั้งอยู่ทางเข้าเดียวกันกับ Wetlandcamp และศรีปากประรีสอร์ท โดยตรงเข้ามาไม่เลี้ยวขวา สวนพฤกษศาสตร์พัทลุง เป็นทางเดินเท้าศึกษาธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่า 930 เมตร  มีความร่มรื่นเป็นธรรมชาติด้วยป่าพรุที่อุดมสมบูรณ์แห่งเดียวที่เหลือของพัทลุง สวนพฤกษศาสตร์พัทลุงเต็มไปด้วยต้นเสม็ดขาว และพันธุ์ไม้น้ำอย่าง ต้นหยีน้ำ กระทุ่มคระ ไทร อินทนิลน้ำ ประเภทบัว และกก  สามารถชมวิวทะเลสาบสงขลา หรือเช่าเรือเพื่อชมธรรมชาติของดงเสม็ดให้ความรู้สึกคล้ายอยู่ท่ามกลางป่าอเมซอน เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ที่สวนพฤกษศาสตร์พัทลุงยังเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจอีกด้วย