วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) กรุงเทพฯ
เผยแพร่เมื่อ August 7, 2024
วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกับวัดโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดีทั้งในชาวไทยและต่างประเทศในความงดงามของพระปรางค์ที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทย วัดอรุณเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของกรุงธนบุรี ก่อนที่จะมีการตั้งราชธานีใหม่ที่ผั่งพระนคร วัดอรุณมีความสำคัญคือเคยเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ในครั้งที่สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) เสด็จตีเมืองเวียงจันทร์ ได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์คือ พระแก้วมรกตและพระบางมาประดิษฐาน ณ วัดอรุณ ก่อนที่จะอัญเชิญมาประดิษฐาน ที่วัดพระแก้วในเวลาต่อมา
ในอดีตวัดอรุณเป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า “วัดมะกอก” ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อ “วัดแจ้ง” เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งนิมิตที่พระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จมาถึงวัดนี้เมื่อเวลาอรุณรุ่งในยามที่มีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 เสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ ก็ได้ดำเนินการปฏิสังขรณ์วัดแจ้ง แล้วเสร็จในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 พระราชทานพระนามวัดใหม่ว่า “วัดอรุณราชธาราม” วัดอรุณได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมอีกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แล้วทรงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดอรุณราชวราราม” มาจนถึงปัจจุบัน
ภายในวัดอรุณ ประกอบด้วย ศาสนสถานต่างๆ ได้แก่ พระพุทธปรางค์ พระอุโบสถ พระวิหารหลวง ประตูซุ้มยอดมงกุฏ (ยักษ์) โบสถ์น้อย วิหารน้อย หอระฆัง มณฑปพระพุทธบาทจำลอง พระเจดีย์ 4 องค์ ภูเขาจำลอง อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 2 ฯ แต่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชายไทยและชาวต่างชาติรู้จักกันดีคือ พระพุทธปรางค์ซึ่งเป็นพระปรางค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย และยักษ์วัดแจ้ง จากตำนานของท่าเตียนที่กล่าวกันว่า ยักษ์วัดแจ้งและยักษ์วัดโพธิ์ ที่เกิดผิดใจกันเกิดการต่อสู้กันขึ้นจนทำให้พื้นที่โดยรอบราพณาสูร กลายเป็นชื่อท่าเตียนตามที่เรียกขานกันในปัจจุบัน
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย
วัดอรุณราชวราราม
ชื่อภาษาอังกฤษ :
Wat Arun Ratchawararam
เวลาเปิด - ปิด :
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 - 18:00 น. / หยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์
ที่อยู่ :
เลขที่ 34 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ
ข้อมูลอ้างอิง :
เว็บไซต์วัดอรุณ , หอสมุดสาขา วังท่าพระ , ธรรมะไทย ,เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
สถานะ :
ไม่มีข้อมูล
การเดินทาง
การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว :
จากถนนปิ่นเกล้า เลี้ยวเข้าถนนอรุณอมรินทร์ ผ่านโรงพยาบาลศิริราช เมื่อข้ามสะพานอรุณอมรินทร์ จะเห็นทางเข้าวัดอรุณอยู่ทางด้านซ้ายมือ ที่จอดรถค่อนข้างหายาก
การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ :
กิจกรรมแนะนำ
1
พระพุทธปรางค์
ค่าเข้าชม :
คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม / ชาวต่างชาติ 200 บาท
พระปรางค์ในวัดอรุณนี้ กล่าวกันว่าเป็นพระปรางค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร รายล้อมด้วยพระปรางค์องค์เล็กทั้ง 4 ทิศ ตามคติเรื่องไตรภูมิที่มีองค์ปรางค์คือเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลาง พระปรางค์องค์ใหญ่มียอด “มงกุฎ” ประดับบนนภศูล ลักษณะเป็นฝักเก้าแฉก ส่วนรอบองค์ปรางค์ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ ถ้วยชามแบบสมัยโบราณ เปลือกหอย มีลวดลายต่างกันไป อาทิ ดอกไม้ ใบไม้ ฯ และรอบๆพระปรางค์มีตุ๊กตาจีนอยู่เป็นจำนวนมาก
นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมพระปรางค์สามารถเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ โดยเฉพาะทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยามองไปเห็นฝั่งพระนคร ในยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟที่พระพุทธปรางค์ หากยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามองเข้ามาจะมีความงดงามเป็นอย่างมาก
2
พระวิหารหลวง
ค่าเข้าชม :
คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม / ชาวต่างชาติ 200 บาท
ภายในพระวิหารหลวงประดิษฐานพระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักษณาอสีตยานุบพิตร พระประธานประจำพระวิหารหลวง รัชกาลที่ 3 ทรงให้หล่อขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2496 และพระอรุณ หรือพระแจ้ง พระพุทธศิลป์แห่งลานช้างที่ได้อัญเชิญมาประดิษฐาน เมื่อปี พ.ศ. 2401
3
พระอุโบสถ
ค่าเข้าชม :
คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม / ชาวต่างชาติ 200 บาท
ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก พระประธานประจำพระอุโบสถ ที่มีพระพักตร์งามสง่าโดดเด่นที่สุดในประเทศ ซึ่งมาจากฝีพระหัตถ์ในรัชกาลที่ 2 ภายในพระพุทธอาสน์บรรจุพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ภายในมีบริการเครื่องสักการะมีธูป เทียน ดอกบัวและรับน้ำพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคล ภายในมีสถาปัตยกรรมอันเป็นอัตตลักษณะเด่น ด้านในประตูทุกบานเป็นภาพสีรูปคนถือหางนกยูงยืนอยู่เหนือสัตว์หิมพานต์ ด้านนอกประตูเป็นลายรดน้ำ ด้านในพระระเบียงโดยรอบมีตุ๊กตารูปทหารเรือทำจากหินแกรนิตสีเขียวตั้งเรียงเป็นแถวจำนวน 144 ตัว บริเวณมุมพระอุโบสถทั้งสี่มุม มีพระเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมทำด้วยหินอ่อน มีซุ้ม 8 ซุ้ม มียอดเป็นปล้อง ๆ เรียวขึ้นโดยลำดับคล้ายปล้องไฉน ภายในบรรจุตุ๊กตาหินแกรนิตแบบจีนอยู่ภายใน จำนวน 8 ตัว เรียกว่าโป๊ยเซียน ส่วนที่ซุ้มด้านหน้าของพระอุโบสถมีรูปปั้นยักษ์ยืนถือกระบอง 2 ตน ยักษ์สีเขียวคือ ทศกัณฑ์ ส่วนยักษ์สีขาวคือ สหัสเดชะ จากเรื่องรามเกียรติ์
หมวดหมู่
รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย