พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และ พระมหาธาตุนภเมทนีดล เชียงใหม่
เผยแพร่เมื่อ September 4, 2024
พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทยเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ประดิษฐานอยู่บนที่สูงสุดในพระราชอาณาจักรไทยซึ่งก็คือตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของดอยอินทนนท์เนื่องด้วยความงดงามของสองพระมหาธาตุที่ตั้งอยู่เคียงคู่กันท่ามกลางบรรยากาศและทิวทัศน์โดยรอบที่มีความสวยงาม นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวที่ดอยอินทนนท์แห่งนี้ มักจะแวะเข้ามาไหว้สักการะสองพระมหาธาตุนี้อย่างไม่ขาดสาย
เหตุที่เลือกดอยอินทนนท์เป็นที่ประดิษฐานพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ เนื่องด้วยพระบรมธาตุเจดีย์ ควรสถิตอยู่ ณ จุดที่สูงสุดบนผืนแผ่นดินไทย เพื่อให้สมกับพระมหากรุณาธิคุณ พระมหาเมตตาธิคุณ และพระมหาบริสุทธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้สถิตอยู่สูงสุด และในดวงใจของปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่า โดย พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล มีความหมายว่า “พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน” และ พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ มีความหมายว่า “เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน”
การมาไหว้พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ต้องจอดรถที่จุดจอดรถด้านล่าง และเดินตามเส้นทางถนนอีกเพียง 250 เมตร เป็นทางชันเล็กน้อย เมื่อมาถึงลานบริเวณพระมหาธาตุฯ จะพบกับสวนหย่อมสวยงาม มีมุมพักผ่อน มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านค้าให้บริการ จากลานวสามารถขึ้นพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ก็สะดวกสบายเนื่องจากมีบันไดเลื่อน (เฉพาะขาขึ้น) ให้ใช้บริการโดยไม่ต้องขึ้นบันได้ให้เมื่อย
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย
พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และ พระมหาธาตุนภเมทนีดล
ชื่อภาษาอังกฤษ :
Phra Maha Dhatu Nabhamethanidol and Nabhapolbhumisiri (The Great Holy Relics Pagoda Nabhamethanidol and Nabhapolbhumisiri)
เวลาเปิด - ปิด :
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
ที่อยู่ :
ตำบล ช่างเคิ่ง
ข้อมูลอ้างอิง :
ป้ายข้อมูลภายในสถานที่ , www.dhammajak.net
หมายเหตุ :
ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ราคา 50 บาท , เด็กราคา 20 บาท / ต่างชาติ foreigner Adult 200 baht , Children 100 baht
สถานะ :
ไม่มีข้อมูล
การเดินทาง
การเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว :
จากตัวเมืองเชียงใหม่ เดินทางโดยรถยนต์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 (เชียงใหม่-ฮอด) ผ่านอำเภอหางดงและอำเภอสันป่าตอง ไปยังอำเภอจอมทอง ก่อนถึงอำเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009 (จอมทอง-ดอยอินทนนท์) ตรงไปอีกประมาณ 42 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดจอดรถพระธาตุฯ ให้สังเกตว่าเส้นทางจะผ่านด่านอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์สองครั้ง ในช่วงหลังๆเส้นทางจะค่อนข้างสูงชัน รถยนต์ธรรมดาสามารถขึ้นได้ (ควรจะเป็นรถยนต์เครื่อง 1,500 cc ขึ้นไป) แต่ต้องมีความชำนาญในการขับรถ
การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ :
จากตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ประตูเชียงใหม่ใช้บริการสองแถวสีเหลือง เชียงใหม่ – จอมทอง ใช้เวลาวิ่งราว 1 ชั่วโมง จะมาถึงที่วัดพระธาตุศรีจอมทองจากนั้นต้องเหมารถบริเวณวัดต่อเพื่อเที่ยวรอบๆอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
กิจกรรมแนะนำ
1
พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล “พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน”
พระมหาธาตุเจดีย์”นภเมทนีดล” มีความหมายว่าพระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน องค์พระมหาธาตุเป็นสีน้ำตาล ตั้งเคียงคู่กับพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ โดยพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลนั้นกองทัพอากาศได้สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปี พ.ศ. 2530
พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลมีความสูง 60 เมตร เพื่อเป็นนิมิตรหมายการสร้างเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา องค์พระมหาสถูปเจดีย์มีสัณฐานทรงระฆัง 8 เหลี่ยม มีลวดลายแบ่งออกเป็น 3 ช่วง แทนพระบารมี 3 ขั้นตอนที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญ อันประกอบด้วย บารมีขั้นแรก 10 ขั้น อุปบารมี 10 ขั้น และปรมัตถบารมี 10 ขั้น รวมเป็น บารมี 30 ทัศ ส่วนที่เหนือรูปทรงระฆัง เป็นรูปบัวหงาย 8 กลีบ หมายถึงมรรคมีองค์ 8 และส่วนบนสุดขององค์พระมหาสถูปเจดีย์ มีรูปทรงเป็นยอดปลี ซึ่งหมายถึงการตรัสรู้สู่พระนิพพาน และที่ปลายยอดปลีกั้นด้วยฉัตรโลหะสีเงิน 9 ชั้น ฉลุลายสีเงิน มียอดเป็นสีทอง อันหมายถึง อุดมมงคลอันสูงสุด และเป็นร่มเกล้าที่พระมหากษัตริยาธิราช รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “นวราชบพิตร” ถวายเป็นพุทธบูชา
ภายในห้องโถงของพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลประดิษฐาน “พระพุทธบรมศาสดา นวมิทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหินแกรนิตที่สั่งจำหลักกจากประเทศอินโดนีเซีย มีขนาดหน้าตัก 60 นิ้ว สูง 73 ฟุต ผนังห้องโถงประดับด้วยภาพศิลาจำหลัก แบบนูนต่ำ 4 ภาพใหญ่ แสดงพุทธประวัติ 4 ตอนสำคัญ คือ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ส่วนพระบรมสารีริกธาตุได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ภายในยอดปลีของพระมหาธาตุ ในปี พ.ศ.2530
2
พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ “เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน”
พระมหาธาตุเจดีย์ “นภพลภูมิสิริ” มีความหมายว่า เป็นกำลังแห่งฟ้าเป็นสิริแห่งแผ่นดิน สร้างถวายเป็นพระราชกุศล และ เทอดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบเมื่อปี พ.ศ. 2535 เป็นพระมหาธาตุเจดีย์องค์สีม่วงอมชมพู ตั้งอยู่ทางขวามือของพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ มีรูปทรง 12 เหลี่ยม แสดงความหมายถึงอัจฉริยธรรม 12 ประการ อันเกิดแก่พระนางสิริมหามายา พระพุทธมารดา มีระเบียงกว้างโดยรอบเป็น 2 ระดับ ความกว้างที่ระดับระเบียงล่าง 37 เมตร แสดงความหมายถึงโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ที่ขอบระเบียงแต่ละระดับมีซุ้มรูปกลีบบัวประดับอยู่ 6 ซุ้ม องค์พระมหาธาตุมีความสูงจากชานพักชั้นล่างถึงยอดปลี 55 เมตร
ภายในห้องโถงของพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ประดิษฐาน “พระพุทธสิริกิติฑีฆายุมงคล” พระพุทธรูปรูปหินหยกสีขาวปางรำพึง พระประจำวัน พระราชสมภาพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระพุทธรูปองค์นี้กองทัพอากาศได้สั่งจำหลักด้วยหินหยกสีขาวบริสุทธิ์จากประเทศจีน มีขนาดความสูง 3.2 เมตร กองทัพอากาศได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานและประกอบพิธีพุทธาภิเษก และเบิกพระเนตรเมื่อปี พ.ศ.2535 พร้อมกับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานไว้ภายในยอดปลีขององค์พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ
ผนังตอนบนโถงของพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริประดับด้วยภาพพุทธประวัติ ทำด้วยโมเสกแก้วสี แสดงเรื่องราวของพระนางสิริมหามายา, พระนางมหาปชาบดีโคตมี, พระนางยโสธราพิมพา และนางวิสาขามหาอุบาสิกา ส่วนผนังตอนล่างประดับด้วยภาพพระราชกรณียกิจที่สำคัญของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นภาพแบบผสมนูนต่ำและนูนสูง แกะสลักด้วยหินแกรนิตสีขาว
3
จุดชมทะเลหมอก
ที่บริเวณด้านหลังพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และ พระมหาธาตุนภเมทนีดล เป็นสวนที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะยามเช้าในช่วงฤดูหนาว เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมาก โดยทะเลหมอกที่เห็นเป็นแนวเดียวกับจุดชมทะเลหมอกที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานที่อยู่ใกล้ๆกัน เหมาะกับนักท่องเที่ยวต้องการที่จะชมทะเลหมอกโดยไม่อยากเดิน ที่จุดนี้ถือได้ว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามรองจากที่กิ่วแม่ปาน
หมวดหมู่
รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย