บ้านบางชันหรือบ้านปากน้ำเวฬุ หมู่บ้านไร้แผ่นดิน จันทบุรี

เผยแพร่เมื่อ September 6, 2024

แหล่งท่องเที่ยวจันทบุรี : บ้านบางชันหรือบ้านปากน้ำเวฬุ หมู่บ้านไร้แผ่นดิน

บ้านบางชันหรือบ้านปากน้ำเวฬุ เป็นหมู่บ้านที่ถูกขนานนามว่าเป็น “หมู่บ้านไร้แผ่นดิน” หมู่บ้านไร้แผ่นดินแห่งนี้เป็นหมู่บ้านขนาดกลาง เป็นชุมชนที่มีประวัติมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี โดยมีประวัติความเป็นมาคือมีคนกลุ่มแรกได้มาตั้งรกรากในหมู่บ้านแห่งนี้ เป็นชาวจีนที่อพยพมาเพื่อค้าขายในประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2410 และได้ผ่านมาที่จันทบุรีจึงมาพักเรือที่ปากน้ำเวฬุ และมีความคิดในการตั้งรกรากที่บริเวณนี้ จึงกำเนิดวัฒนธรรมไทย – จีน ขึ้นที่นี่ โดยที่ชื่อว่า “หมู่บ้านไร้แผ่นดิน” คำว่าไร้แผ่นดิน  มาจากการตั้งเพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของชุมชนแห่งนี้ ส่วนคำว่า ‘บ้าน’ นั้นมีที่มาที่ไปคือในหมู่บ้านไร้แผ่นดินนี้ มีพัฒนาการในการตั้งถิ่นฐาน โดยแบ่งออกเป็น 3 ยุค คือ

ยุค “บ้านโรงไม้” ซึ่งเป็นชื่อเดิมของชุมชนเพราะว่าบริเวณของชุมชนมีป่าโกงกาง และได้มีการตัดไม้โกงกางในพื้นที่ ชาวบ้านจึงได้นำไม้มากองไว้เพื่อรอเอาเข้าเตาเผาถ่าน ชุมชนจึงเป็นโรงพักไม้ที่รอส่งไปขายต่างพื้นที่ จึงเป็นที่มาของชื่อ โรงไม้ หรือ บ้านโรงไม้

ยุคการประมงพื้นบ้าน เป็นยุคที่คนที่เคยมาตั้งถิ่นฐานที่นี่รวมถึงคนจีนนั้นได้มีการมาประกอบอาชีพประมงพื้นที่ เพราะบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลเป็นอย่างมาก จึงเหมาะสมกับการประกอบอาชีพประมง และเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนชื่อจากบ้านโรงไม้มาเป็น “บ้านปากน้ำเวฬุ”

และยุคสุดท้ายคือยุคปัจจุบันคือยุคของ “หมู่บ้านไร้แผ่นดิน”  โดยหากใครแวะมาที่หมู่บ้านไร้แผ่นดินนี้ จะสามารถพบเจอหิ่งห้อยและเหยี่ยวแดงที่หาชมยาก นอกจากนี้ยังมีที่พักโฮมสเตย์ ใครอยากไปเที่ยวก็สามารถหาที่พักได้ มาทำกิจกรรมต่างๆที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้  ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน  มาชมทะเลแหวก พร้อมกับหมู่บ้านไร้แผ่นดินที่น่าสนใจ ถือเป็นอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวที่ควรแวะมาสักครั้ง

 

 

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาไทย

บ้านบางชันหรือบ้านปากน้ำเวฬุ (หมู่บ้านไร้แผ่นดิน)

ชื่อภาษาอังกฤษ :

Ban Bang Chan

ที่อยู่ :

บ้านปากน้ำหมู่ที่2 ตำบล บางชัน

ข้อมูลอ้างอิง :

เว็บไซต์วิกิชุมชน

สถานะ :

ไม่มีข้อมูล

กิจกรรมแนะนำ

1

ชมเหยี่ยวแดงที่หาชมยากและหิ่งห้อยแสนสวย

เหยี่ยวแดง ถือเป็นไฮไลต์ของหมู่บ้านไร้แผ่นดินหรือบ้านปากน้ำเวฬุแห่งนี้ หากใครที่มาที่หมู่บ้านนี้จะสามารถนั่งเรือไปชมเหยี่ยวแดงได้ โดยจุดชมเหยี่ยวแดงจะเป็นบริเวณใกล้รังจะมีลักษณะเหมือนบึงกว้าง ถูกล้อมไปด้วยป่าโกงกางที่เป็นที่อยู่อาศัยของนกเหยี่ยวแดงประจำถิ่น จะมีเรือที่ให้บริการเพื่อนำไปชมยังจุดชมนกเหยี่ยว สามารถติดต่อเรือชมนกเหยี่ยวได้ในชุมชน

ชม หิ่งห้อย โดยสามารถชมหิ่งห้อยได้ตามยอดไม้ จะส่องแสงระยิบระยับ ซึ่งเป็นหิ่งห้อยที่อาศัยอยู่ตามป่าชายเลน

นอกจากนี้ หมู่บ้านไร้แผ่นดิน ยังมีปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ คือ ทะเลแหวก บริเวณปากน้ำแม่น้ำเวฬุ ซึ่งทะเลแหวกเกิดจากทับถมของเปลือกหอยและทรายที่ทับถมกันบริเวณปากแม่น้ำ

2

ศาลเจ้าพ่อปากน้ำเวฬุ

ศาลเจ้าพ่อปากน้ำเวฬุ หรือศาลจีน ตั้งอยู่บริเวณปากคลองบางชันใหญ่ที่อยู่คู่กับชุมชนแห่งนี้มาเป็นเวลานาน ถูกสร้างด้วยความร่วมมือของคนจีนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้สักการะบูชาและเป็นสถานที่ที่เอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในชุมชนมาอย่างยาวนาน

3

ชมวัดสำคัญของชุมชน "วัดบางชัน"

วัดที่สำคัญของชุมชนปากน้ำเวฬุ ที่มีชื่อว่า “วัดบางชัน” โดยมีชื่อเดิมว่า วัดอรัญสมุทธาราม เป็นวัดโบราณแห่งหนึ่งในอำเภอขลุง ก่อตั้งครั้งแรกในฐานะสำนักสงฆ์ใน พ.ศ. 2412

โดยภายในวัดมีสิ่งสำคัญคือ ลายพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ในใบวิสุงคามสีมา

พื้นที่ของวัดเป็นพื้นที่ที่มีเนื้อที่กว้างขวางมากที่สุดในชุมชน จะตั้งอยู่บริเวณริมคลองบางชันใหญ่ไปจนถึงติดกับป่าชายเลน ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ประจำชุมชนที่จะเก็บรวบรวมของหายากและของมีค่าทางประวัติศาสตร์ เช่น ซากสัตว์ หอยต่างๆ ของโบราณ เช่น เรือเก่า

เป็นศาสนสถานที่เอาไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวบ้านในชุมชน ไม่ว่าจะเป็น งานศพ พิธีทางศาสนาพุทธ

รวมแหล่งท่องเที่ยวและภาพถ่ายทั่วไทย