ชั้นสุวรรณภูมิ เป็นชั้นใต้ดินของตัวอาคารช้าง จะจัดแสดงโบราณวัตถุเครื่องกระเบื้องของคุณเล็ก โดยชั้นนี้ต้องการที่จะสื่อความหมายของวัฒนธรรมผู้คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในอดีตคนต่างถิ่นเรียกว่า “ดินแดนสุวรรณภูมิ” ที่รวมถึงดินแดนสยามหรือประเทศไทยในปัจจุบัน ได้เลือกใช้ภาชนะดินเผาหรือที่เรียกว่า เครื่องกระเบื้อง เป็นตัวแทนสื่อความหมาย  เช่น เครื่องสังคโลก ที่ผลิตขึ้นจากเตาเผาที่เมืองสุโขทัย หรือภาชนเครื่องกระเบื้องแบบลพบุรี นอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุอื่นๆ มาจัดแสดงด้วย เช่น เทวรูปในศิลปะแบบเขมรโบราณ  และเครื่องเรือนในกลุ่มชั้นสูงของชาวสยามฝีมือช่างโบราณสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์

ชั้นโลกมนุษย์ เป็นบริเวณตัวอาคารทรงกลมที่รองรับน้ำหนักของตัวช้าง  ก่ออิฐถือปูนสีชมพูอ่อน ตัวอาคารจะเป็นการผสมผสานศิลปะตะวันออกและตะวันตกไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม เพดานของอาคารห้องโถงเปรียบเสมือนหลังคาโลก  ตกแต่งเป็นรูปแผนที่โลกขนาดใหญ่บนงานกระจกสี โดยชั้นนี้มีบันไดทางขึ้นเพื่อจะนำไปสู่ชั้นจักรวาล จะแยกเป็นสองทางที่หน้าซุ้มพระเกตุ ซึ่งทำเป็นรูปเก๋งจีนตกแต่งด้วยลวดลายปูปั้น และด้านบนทำเป็นรูปพระเกตุ ทรงถือพระขรรค์อยู่เหนือซุ้ม ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่คุ้มครองโลกและมหาสมุทร โดยภายในซุ้มเก๋งจีนเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร (กวนอิม) ปางแสดงเมตตาธรรมในรูปบุรุษเพศ เป็นชั้นที่โดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก และยังมีเสาสี่ต้นที่เป็นเสารับน้ำหนักจากขาช้าง โดยเสาสี่ต้นนี้ตกแต่งเป็นทรงแปดเหลี่ยม หุ้มด้วยดีบุก โดยดีบุกที่นำมาหุ้มนั้นได้เคาะดุนลวดลายอย่างวิจิตรงดงาม และเสาสี่ต้นคือสัญลักษณ์แทนคุณธรรมทั้งสี่ศาสนา ที่คอยค้ำจุนโลกมนุษย์นั่นเอง

ชั้นจักรวาล เป็นบริเวณภายในตัวอาคารรูปช้าง มีทางเชื่อมเข้าสู่ชั้นนี้ตรงบันไดสีขาวและสีชมพูที่วนมาบรรจบกันหลังซุ้มพระเกตุ เป็นจุดเริ่มต้นที่ขึ้นสู่ชั้นจักรวาลหรือสรวงสวรรค์  สามารถเลือกขึ้นโดยลิฟต์หรือเดินขึ้นบันไดก็ได้ บริเวณบันไดวนจะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทวยเทพและนางฟ้าที่กำลังล่องลอยบนนภากาศ บ้างก็โปรยหมู่มวลพฤกษามาลา บ้างก็ระบำรำฟ้อน บรรเลงทิพยดุริยางค์ดนตรี เมื่อวนตามบันไดขาช้างจนถึงบริเวณท้องช้าง เข้าไปในห้องที่เปรียบเสมือนจักรวาล บรรยากาศภายในชั้นนี้จะมีการจัดไฟเฉพาะจุดเพื่อให้ผู้เข้าชมเกิดสมาธิ ตรงกลางห้องมีรอยพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่ เบื้องหน้ามีพระพุทธรูปปางลีลาศิลปะสุโขทัยเป็นพระประธานซึ่งถ่ายแบบมาจากวัดเบญจมบพิตร ฉากเบื้องหลังตกแต่งเป็นผังที่ตั้งแห่งเขาพระสุเมรุมีซุ้มวิมานด้านบนสุดซึ่งประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์จำลอง และมีบันไดแก้ว บันไดเงิน และบันไดทอง ซึ่งรับกับพระพุทธรูปปางลีลา ราวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จดำเนินผ่านทางนี้ลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์บนยอดเขาพระสุเมรุ และที่ชั้นนี้ยังมีการจัดแสดงโบราณวัตถุ คือ พระพุทธรูปโบราณสมัยต่างๆ